JSF

ถ้าคุณจำเป็นต้องตัดสินใจเลือกว่าจะใช้กรรมวิธีใดในการพัฒนา Web Base Application ขึ้นมาในปัจจุบัน...
คุณจะเลือกอะไรดี ระหว่าง 2 กรรมวิธี ที่กำลังเป็นที่นิยมอยู่ คือ

1. พัฒนาแบบเร่งด่วน (Rapid development)

เป็นการใช้เครื่องมือในการพัฒนาที่เห็นภาพ (Visual Development) มาใช้ในการสร้างระบบ ตัวอย่างของกรรมวิธีแบบนี้ ที่นิยมก็คือการพัฒนาของค่าย Microsoft เช่น ASP.NET เป็นต้น

2. เน้นเขียนโค้ดเองเป็นหลัก (Hard core coding)
คือการที่เราเป็นคนเขียนโค้ดเองซะเป็นส่วนใหญ่ เพื่อที่จะได้สามารถควบคุมและจัดการ environment เกือบทั้งหมด สิ่งที่จะได้มาก็คือประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้นของระบบนั้น ๆ เช่น การเชื่อมต่อกับฐานข้อมูล, การทำ Connection Pool เป็นต้น ลักษณะของกรรมวิธีแบบนี้ที่เราคุ้นเคย ก็คือ Java EE (Java Enterprise Edition) นั่นเอง

ทั้งสองอย่างที่กล่าวมาต่างก็มีข้อดี ข้อเสียอยู่ในตัว
ถ้าเราเลือก Java EE, นักพัฒนาก็จะต้องคอยควบคุมทุก ๆ อย่างเอง
และบางครั้งก็เป็นเรื่องหน้าเบื่อ ที่ต้องมาเขียนโค้ดขึ้นกับมือเองทั้งหมด

แต่ถ้าเราเลือกที่จะใช้ ASP.Net ล่ะ?
ข้อดีที่จะได้ก็คือ เราจะสามารถออกแบบและพัฒนาระบบได้ง่ายขึ้นมาก
แต่ข้อเสียก็คือ เราจะควบคุม Environment ต่าง ๆ ได้ยากขึ้น
เพราะเครื่องมือนั้น ๆ ไม่ได้เปิดช่องทางเอาไว้ให้เรามากพอ

จากที่ได้กล่าวมา, Sun Microsystem จึงได้ออก Framework ที่ชื่อ JSF, Java ServerFace ขึ้นมา
เพื่อที่จะประสานข้อดีของรูปแบบการพัฒนา Web Application ทั้งสองอย่างเข้ามาไว้ด้วยกัน

โดยนักพัฒนาที่คุ้นเคยกับการเขียนโปรแกรมฝั่ง Client, เช่น Swing, AWT, หรือ SWT ของ IBM
ก็จะมองว่าการพัฒนาด้วย JSF นั้น ก็มีรูปแบบที่คล้างคลึงกัน

แต่ถ้าหากนักพัฒนามีความชำนาญ JSF มากขึ้น
ก็จะพบว่า JSF นั้นยืดหยุ่นกว่าที่คิด เพราะว่า JSF ได้เปิดช่องให้เราสามารถเข้าไปออกแบบ JSF Tag ขึ้นมาใช้งานเองได้อีกด้วย จะทำให้เราสามารถประยุกต์มาใช้งานได้มีประสิทธิภาพยิ่ง ๆ ขึ้น

และยิ่งไปกว่านั้นคนที่คุ้นเคยกับ Servlet กับ JSP มาก่อน
ก็สามารถมองได้ว่า Servlet กับ JSP เปรียบเสมือนเป็น Assembly Language
ที่อยู่เบื้องหลังของ Framework JSF นั่นเอง


Credit: http://blog.oracle.in.th

ลิ้งค์ที่เกี่ยวข้อง
วิธีการ Install Seam Plugin เพื่อไว้ทำการสร้าง JSF Project.
jsf คืออะไร? ทำไมต้อง jsf?
web.xml สำหรับ jsf 2.0

<< English >>

What is JSF?
JSF is new standard framework developed by Java Community Process (JCP) that makes it easy to build user interfaces for Java Web applications by assembling reusable components in a page.You can JSF framework as a tool box full of ready to use components, where you can add quickly and easily re-think of these components often generated on a page and capture events of actions on these components. Sun JSF applications are event driven. In general, embedded components in a JSP page by using custom tags defined by JSF technology and the framework for navigating from one page to another handle. Components can be nested within another component, such as input field button in a form.
JSF is based on proven Model-View-Controller (MVC) design pattern. Applications that are well designed with JSF framework and easy to maintain, then all other applications developed in JSP and Servlets.
JSF simplifies development of Web applications on Java-based technologies. Here are some of the benefits of using JSF:
JSF provides standard, reusable components for creating user interfaces for Web applications.
JSF provides many tag libraries for accessing and manipulating the components.
It automatically saves the data form and fill the form if it is displayed on the client side.
JSF encapsulates the event handling and component rendering logic of programmers, programmers simply use the custom components.
JSF is a specification and suppliers to develop the implementations of JSF.
There are many GUIs available these days to the development of web-based application to simplify JSF framework.
JSF components
JSF includes mainly:
set of APIs to represent and manage state of the components, the server-side validation, event handling, page navigation, data conversion, etc. helps to create JSP tag library UI components in a view page. The UI (user interface) with the JSF technology runs on server and output displayed on the client. Aims to create JSF web applications faster and easier. Developers can access UI components, event handling, backing beans and their interactions rather than request, response, and mark-up focus. JSF hides complexity to allow developers to focus on their specific work.